Definisse Filler เจาะลึกฟิลเลอร์อิตาลีและ Hydrobooster ที่หมอล็อคแนะนำ
Home » Aesthetic Treatment » Filler » Definisse
สวัสดีครับ หมอล็อคนะครับ ช่วงนี้ถ้าใครติดตามเทรนด์ความงามจะสังเกตเห็นว่า กระแสจากฝั่ง “อิตาลี” กำลังมาแรงมาก ๆ ในบ้านเราครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไหมอิตาลีที่หลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว หรือล่าสุดที่กำลังเป็นที่พูดถึงกันหนาหูเลยก็คือฟิลเลอร์สัญชาติอิตาลีอย่าง Definisse Filler (เดฟฟิเนส ฟิลเลอร์) ครับ
ทำไมแบรนด์นี้ถึงน่าสนใจ สำหรับหมอแล้ว สิ่งที่ทำให้ Definisse โดดเด่นมาก ๆ คือคอนเซปต์ความงามแบบ “Less is More” หรือ “ใช้น้อยแต่สวยมาก” ครับ คือเขาไม่ได้เน้นแค่การอัดสารเข้าไปให้เต็ม แต่เน้นการปรับโครงสร้างผิวให้ดูเป๊ะและเป็นธรรมชาติที่สุด วันนี้หมอเลยอยากจะพาทุกคนมาเจาะลึกฟิลเลอร์ตัวนี้กันแบบหมดเปลือก ทั้งรุ่นปรับรูปหน้าและตัว Hydrobooster งานผิวตัวดัง ว่ามันดีจริงไหม และทำไมหมอถึงมั่นใจเลือกนำมาใช้ดูแลคนไข้ที่ Dr.Lock Clinic ครับ
เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน
Toggleทำความรู้จัก Definisse Filler ฟิลเลอร์พรีเมียมสัญชาติอิตาลี
ก่อนจะไปดูเรื่องรุ่นต่าง ๆ เรามาทำความรู้จักที่มาที่ไปของเขากันก่อนครับ Definisse Filler เป็นฟิลเลอร์เกรดพรีเมียมที่ผลิตและนำเข้าจากประเทศอิตาลีครับ ดูแลโดยบริษัท RELIFE ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Menarini Group บริษัทยายักษ์ใหญ่ระดับโลกที่มีประวัติยาวนานกว่า 130 ปีครับ เรียกว่าเครดิตความน่าเชื่อถือมาเต็มแน่นอน
ในเรื่องของความปลอดภัย อันนี้หายห่วงได้เลยครับ เพราะ Definisse ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งจากยุโรป (CE Mark) และผ่านการรับรองจาก อย. ไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นฟิลเลอร์กลุ่ม Hyaluronic Acid (HA) ที่มีความบริสุทธิ์สูง สลายได้เองตามธรรมชาติ 100% ไม่มีสารตกค้างให้กังวลใจในระยะยาวครับ
เจาะลึกเทคโนโลยี XTR™ (eXcellent Three-dimensional Reticulation)
มาถึง “หัวใจสำคัญ” ที่ทำให้ Definisse แตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ ในท้องตลาดครับ นั่นก็คือเทคโนโลยีการผลิตที่มีชื่อเท่ ๆ ว่า XTR™ Technology หรือชื่อเต็มคือ eXcellent Three-dimensional Reticulation ครับ
ฟังชื่อแล้วอาจจะดูวิชาการไปนิด เดี๋ยวหมออธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ แบบนี้นะครับ ลองจินตนาการว่าโครงสร้างของฟิลเลอร์ตัวนี้เหมือนกับ “ตาข่าย 3 มิติ” ที่ถูกถักทอขึ้นมาอย่างประณีตครับ เทคโนโลยี XTR™ ช่วยควบคุมให้เส้นใย HA สานกันเป็นร่างแหที่แข็งแรงแต่มีความยืดหยุ่นสูงมาก เปรียบเสมือน “สปริง” ที่รองรับแรงกดได้ดีเยี่ยม
ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้เทคโนโลยีนี้คืออะไร
- ยกพยุงได้ดีเยี่ยม (Lift): เนื้อฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง ฉีดแล้วฟูสวย ไม่ยวบยาบ เหมาะกับการปรับโครงสร้างหน้า
- เนียนกลืนไปกับผิว (Integration): แม้จะยกกระชับได้ดี แต่เนื้อฟิลเลอร์กลับมีความละมุน ไม่เป็นก้อนแข็ง ๆ ทำให้เวลาเรายิ้มหรือแสดงสีหน้าจะดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ ครับ
นี่แหละครับคือความลับที่ทำให้ Definisse สามารถใช้ปริมาณยาน้อยลง แต่ได้ผลลัพธ์ที่เป๊ะปังและอยู่ได้นานกว่าครับ
แน่นอนครับ มาถึงส่วนที่สำคัญมาก ๆ สำหรับคนไข้ที่กำลังตัดสินใจครับ เพราะการเลือก “ถูกรุ่น” คือกุญแจสำคัญของความสวยเป๊ะครับ
Definisse Filler มีกี่รุ่น? เลือกอย่างไรให้ตรงจุด
เพื่อให้แพทย์สามารถแก้ปัญหาบนใบหน้าที่มีความซับซ้อนได้ครบทุกมิติ Definisse เขาเลยออกแบบฟิลเลอร์มาทั้งหมด 3 รุ่นหลัก สำหรับการปรับรูปหน้าครับ โดยแต่ละรุ่นจะมีความหนาแน่นและการขึ้นรูปที่ต่างกัน หมอมีวิธีจำง่าย ๆ โดยดูจาก “สีของแถบหน้ากล่อง“ ครับ
Definisse Core
(กล่องสีทอง/ดำ)
รุ่นนี้คือพี่ใหญ่สุดครับ ข้างกล่องจะมีแถบสีม่วง จำง่าย ๆ ว่า “Core = แกนกลาง“ เนื้อฟิลเลอร์จะมีความแน่นที่สุดและมีค่า G-Prime (ค่าความแข็ง) สูงที่สุดในบรรดาทุกรุ่น ด้วยพลังของเทคโนโลยี XTR™ ทำให้รุ่นนี้มีความสามารถในการ “ยกพยุง” โครงหน้าได้ดีเยี่ยมเหมือนเสาเข็ม
- เหมาะสำหรับ: การเสริมคาง, ปรับกรอบหน้าให้ชัด (Jawline), หรือเติมแก้มส้มที่ต้องการความพุ่งและการยกกระชับสูงครับ
Definisse Restore
(กล่องสีน้ำตาลทอง/ดำ)
รุ่นกลางข้างกล่องสีน้ำตาลทอง ตัวนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า “Restore = ฟื้นฟู“ เนื้อฟิลเลอร์จะมีความนิ่มลงมาหน่อย แต่ยังคงความยืดหยุ่นสูงมาก จุดเด่นคือไม่แข็งจนเกินไปและไม่นิ่มจนเหลว ทำให้เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึกที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ
- เหมาะสำหรับ: ร่องแก้มลึก, ร่องน้ำหมาก, หรือร่องมุมปากที่ต้องการให้ดูตื้นขึ้นโดยที่ยิ้มแล้วไม่เป็นก้อนครับ
Definisse Touch
(กล่องสีชมพู/ดำ)
รุ่นน้องเล็กข้างกล่องสีชมพู “Touch = สัมผัส“ เนื้อฟิลเลอร์จะมีความละเอียดและละมุนที่สุด ออกแบบมาเพื่อเก็บรายละเอียดในจุดที่ผิวบอบบาง
- เหมาะสำหรับ: การเติมเต็มใต้ตา, ริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มเป็นธรรมชาติ หรือริ้วรอยตื้น ๆ ครับ
เจาะลึก Definisse Hydrobooster งานผิวตัวดัง
นอกจาก 3 รุ่นที่ใช้ปรับรูปหน้าแล้ว ยังมีอีกหนึ่งตัวที่หมอไม่อยากให้พลาด และเป็นตัวที่คนไข้ถามหากันเยอะมาก ๆ นั่นคือ Definisse Hydrobooster (เดฟฟิเนส ไฮโดรบูสเตอร์) ครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่า “หมอครับ ตัวนี้มันต่างจาก Skin Booster ทั่วไปยังไง?” ความลับของตัวนี้อยู่ที่ส่วนผสมครับ เขาไม่ได้มีแค่ Hyaluronic Acid (HA) เข้มข้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังผสานพลังกับ “Glycerol” (กลีเซอรอล) ด้วย
Glycerol คือสารกักเก็บความชุ่มชื้นที่มีประสิทธิภาพสูงมากครับ เมื่อทำงานร่วมกับ HA มันจะช่วยสร้างเกราะป้องกันความชุ่มชื้นและดึงน้ำเข้าสู่ผิวได้ดีกว่าเดิมหลายเท่า ผลลัพธ์ที่ได้คือ:
- ผิวฉ่ำวาวแบบกระจก (Glass Skin): ผิวจะดูโกลว์ใส เล่นแสงสวยมาก ๆ
- ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ (Fine Lines): โดยเฉพาะริ้วรอยรอบดวงตา หรือริ้วรอยที่แก้มเวลาเรายิ้ม ตัวนี้ช่วย “Retouch” ผิวให้ดูเนียนเรียบขึ้นได้จริง
- กระชับรูขุมขน: เมื่อผิวมีความชุ่มชื้นอิ่มน้ำ รูขุมขนก็จะดูกระชับเล็กลงตามไปด้วยครับ
Definisse Filler vs Juvederm / Restylane ต่างกันอย่างไร
คำถามโลกแตกที่หมอโดนถามทุกวันครับ “หมอครับ Definisse ต่างจากของอเมริกา (Juvederm) หรือสวีเดน (Restylane) ยังไง ดีกว่าไหม?”
หมอขอตอบแบบเป็นกลางในฐานะแพทย์ผู้ใช้งานจริงนะครับ ฟิลเลอร์ทุกยี่ห้อที่ผ่าน อย. และเป็นเกรดพรีเมียม ล้วนมีข้อดีของตัวเองครับ แต่จุดเด่นที่ทำให้ Definisse แตกต่างอย่างชัดเจนคือ:
- ความคุ้มค่าในการยกกระชับ: ด้วยเทคโนโลยี XTR™ ทำให้ Definisse มีความสามารถในการ Lift หรือยกพยุงหน้าได้ดีมากเมื่อเทียบกับปริมาณยาที่ใช้เท่ากัน พูดง่าย ๆ คือในบางเคสอาจจะใช้จำนวน CC น้อยกว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ใกล้เคียงกันครับ
- ความคมแต่ไม่แข็ง: ปกติฟิลเลอร์เนื้อแข็งบางตัวฉีดแล้วอาจจะดูเป็นแท่ง แต่ Definisse Core ที่แม้จะเนื้อแน่นมาก กลับมีความ “เนียน” ไปกับกระดูกได้ดี ทำให้กรอบหน้าหรือคางที่ได้ดูคมชัดแต่ยังดูเป็นธรรมชาติครับ
- Purification กำจัดสาร BDDE ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ทำให้ได้ HA ที่มีความบริสุทธิ์สูง หลังฉีดไม่บวม หรือบวมเล็กน้อย
สรุปง่าย ๆ: ถ้าคุณชอบความพรีเมียม งานเป๊ะ ยกกระชับดี และมองหาความคุ้มค่า Definisse คือตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ
Definisse Filler ราคาเท่าไหร่
สำหรับราคาของ Definisse Filler จะอยู่ในระดับ “Mid-High” ครับ คือสูงกว่าฟิลเลอร์เกาหลีทั่วไป แต่ยังย่อมเยากว่าตัวท็อปสุดของฝั่งอเมริกาและยุโรป เรียกว่าเป็น Sweet Spot ที่คุ้มค่ามาก ๆ สำหรับคนที่มองหาคุณภาพระดับพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ครับ
โดยราคามาตรฐานในคลินิกชั้นนำจะอยู่ที่ประมาณนี้ครับ:
- Definisse Filler (รุ่น Core / Restore / Touch): ราคาประมาณ 12,000 – 19,900 บาท ต่อ 1 CC
- Definisse Hydrobooster (งานผิว): ราคาประมาณ 12,000 – 15,000 บาท ต่อ 1 ไซริงค์ (1 ml)
หมายเหตุ: ราคาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกและประสบการณ์ของแพทย์ครับ แต่ถ้าเจอราคาที่ถูกจนน่าตกใจ (เช่น หลักพันต้น ๆ) ให้ระวังเรื่องของปลอมไว้ก่อนเลยนะครับ
วิธีเช็ก Definisse Filler ของแท้ (สำคัญมาก)
ในฐานะหมอ เรื่องนี้คือเรื่องที่หมอซีเรียสที่สุดครับ เพราะความสวยต้องมาคู่กับความปลอดภัยเสมอ ปัจจุบันฟิลเลอร์ปลอมทำเลียนแบบได้แนบเนียนมาก แต่สำหรับ Definisse เรามีวิธีตรวจสอบให้ชัวร์ก่อนฉีดได้ตามเช็กลิสต์นี้เลยครับ:
- กล่องต้องปิดสนิท: สังเกตที่ด้านข้างกล่องจะมี “รอยปรุ“ (Perforated Line) ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีการฉีกขาดหรือถูกแกะมาก่อนครับ
- ฉลากภาษาไทยและเลข อย.: ต้องมีเอกสารกำกับยาภาษาไทยและเลขทะเบียน อย. ระบุชัดเจนที่ข้างกล่องครับ
- เช็กเลข 3 จุดต้องตรงกัน: อันนี้สำคัญมากครับ ให้หมอช่วยดูได้เลย
- เลข ที่ หลังกล่อง
- เลข ที่ ข้างกล่อง
- เลข ที่ หลอดฟิลเลอร์ (Syringe) ด้านใน
- ทั้ง 3 จุดนี้ต้องเป็นเลขเดียวกันเป๊ะ ๆ ครับ
- บริษัทผู้นำเข้า: ต้องระบุชื่อบริษัทผู้นำเข้าคือ บริษัท เอ.เมนารินี (ประเทศไทย) จำกัด (A. Menarini (Thailand) Ltd.) เท่านั้นครับ
- โทรเช็กชัวร์ที่สุด: หากไม่มั่นใจ สามารถโทรสอบถามเลข กับทางบริษัท A. Menarini ได้โดยตรงที่เบอร์ 02-696-8500 ต่อ 3 ครับ
“ที่ Dr.Lock Clinic หมอยินดีแกะกล่องใหม่ให้คนไข้ตรวจสอบทุกจุดก่อนฉีด สบายใจได้ 100% ครับ”
การดูแลตัวเองหลังฉีด Definisse
แม้ว่า Definisse จะขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและการคงตัวที่ดีเยี่ยม แต่ในช่วงแรกหลังฉีด หมอก็อยากให้ดูแลตัวเองตามนี้เพื่อผลลัพธ์ที่เป๊ะปังที่สุดครับ
- หลีกเลี่ยงความร้อน: ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก พยายามเลี่ยงการโดนความร้อนจัด ๆ เช่น ซาวน่า, เลเซอร์, หรือกินชาบูหน้าเตาร้อน ๆ ไปก่อนนะครับ เพื่อให้ฟิลเลอร์เซตตัวได้ดีที่สุด
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ: ฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวยและอยู่ได้นานขึ้นครับ
- อย่าเพิ่งนวดกดจุด: หลีกเลี่ยงการกดหรือนวดแรง ๆ บริเวณที่ฉีดในช่วง 2 สัปดาห์แรก เว้นแต่จะเป็นคำแนะนำจากแพทย์ครับ
สรุป: ทำไมหมอล็อคถึงเลือกใช้ Definisse Filler ที่คลินิก
สรุปสั้น ๆ จากใจหมอเลยนะครับ Definisse คือคำตอบสำหรับ Filler ของคนที่ชอบความ “คุ้มค่า” และ “ผลลัพธ์ที่ดูแพง” ครับ หมอชอบเทคโนโลยี XTR™ ของเขามาก เพราะมันช่วยให้หมอปั้นทรงได้สวยคม โดยเฉพาะงานกรอบหน้าและคางที่ต้องการความชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันเนื้อฟิลเลอร์ก็มีความเนียนไม่เป็นก้อนแข็ง ทำให้คนไข้ของหมอหลายคนประทับใจมากที่ฉีดไปแล้วเพื่อนทักว่าสวยขึ้นแต่ดูไม่ออกว่าไปทำอะไรมา นี่แหละครับคือนิยามของความสวยแบบ Definisse ที่หมออยากมอบให้ทุกคนครับ หากต้องการรับคำปรึกษาที่เหมาะสมกับคุณ สามารถนัดหมายเข้ามาให้หมอประเมินและวางแผนการรักษาร่วมกันที่ Dr.Lock Clinic ได้เลยนะครับ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Definisse อยู่ได้นานกี่เดือน
- รุ่น Core (เนื้อแน่น): อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน เหมาะกับคนขี้เกียจเติมบ่อย ๆ ครับ
- รุ่น Restore (เนื้อกลาง): อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- รุ่น Touch (เนื้อละเอียด): อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
- Hydrobooster (งานผิว): อยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือน แนะนำให้ทำต่อเนื่อง 2-3 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดครับ
ฉีด Definisse แล้วเป็นก้อนไหม
ด้วยเทคโนโลยี XTR™ ที่ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นและกลืนกับผิวได้ดี โอกาสเป็นก้อนจึง น้อยมาก ครับ หากฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องและเลือกใช้รุ่นที่เหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ไม่เอารุ่นเนื้อแน่นไปฉีดใต้ตา รับรองว่าเนียนเป็นธรรมชาติแน่นอนครับ
Definisse Hydrobooster ต้องฉีดกี่ครั้งถึงเห็นผล
ปกติแล้วหลังฉีดครั้งแรกจะเริ่มรู้สึกได้เลยว่าผิวชุ่มชื้นและแต่งหน้าติดทนขึ้นครับ แต่ถ้าอยากได้ผิวฉ่ำวาวแบบ Glass Skin ชัดเจน หมอแนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ห่างกันทุก ๆ 1 เดือนครับ จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ